อาจกล่าวได้ว่า หากคุณเกิดเป็นลูกชายในครอบครัวชาวไทยใหญ่ ไม่ว่าจะยากดีมีจนแค่ไหน พ่อแม่ญาติพี่น้องจะต้องอยากเห็นคุณเข้าร่วมพิธีกรรมที่มีชื่อว่า ปอยส่างลอง สักครั้งในชีวิต เพราะพิธีกรรมนี้คือความภาคภูมิใจของพ่อแม่และชุมชนไทยใหญ่ที่ได้เห็นบุตรหลานของตนเปลี่ยนสถานภาพจากเด็กชายในโลกปุถุชนไปเป็นสามเณรในโลกธรรมะ ปอยส่างลอง เป็นภาษาไทยใหญ่ คำว่า ปอย หมายถึง งานหรือพิธี ส่วนคำว่า ส่างลอง หมายถึง ผู้ที่จะบรรพชาเป็นสามเณรหรือส่าง รวมแล้วหมายถึง พิธีบรรพชาสามเณร นั่นเอง เชื่อกันว่า หากลูกชายได้ผ่านพิธีกรรมนี้จะได้อานิสงค์ 8 กัลป์ ส่วนผู้ที่เป็นเจ้าภาพบวชลูกผู้อื่นจะได้อานิสงค์ 4 กัลป์ ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีโรงเรียน การบรรพชาเป็นสามเณรนอกเหนือจากเป็นโอกาสของบุตรชายที่จะได้ทดแทนบุญคุณมารดาแล้ว ยังเป็นโอกาสในการศึกษาเล่าเรียนวิชาความรู้อีกด้วย ตามปกติ ปอยส่างลองมักจะจัดขึ้น เมื่อสิ้นฤดูการเก็บเกี่ยว คือประมาณเดือนมีนาคม- เมษายนของทุกปี แต่ละหมู่บ้านจะมีการประชุมตกลงกันว่าจะจัดในช่วงเวลาไหน โดยจะไม่ให้ตรงกับที่อื่น เพื่อที่จะได้มีโอกาสไปร่วมงานปอยส่างลองในหมู่บ้านอื่น ๆ ได้ โดยปกติ ปอยส่างลอง มักจะจัดกันประมาณ 5 - 7 วัน พ่อแม่หรือผู้ปกครองของส่างลองจะต้องเตรียมข้าวของเงินทองและเครื่องใช้สำหรับจัดงานและเสาะหาผู้ที่จะมาดูแลส่างลองทั้งชายและหญิง หรือที่เรียกกันว่า“แม่เลี้ยงสาว”และ“ป้อเลี้ยงหม่าว” โดยจะต้องมีเป็นคู่ อาจจะมี 2 - 3 คู่ ป้อเลี้ยงหม่าวจะคอยผลัดเปลี่ยนกันแบกส่างลอง ส่วนแม่เลี้ยงสาวจะดูแลเรื่องข้าวปลาอาหารและการแต่งตัว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นญาติ ๆ หรือคนที่รู้จักสนิทสนมกัน ก่อนถึงวันงาน บรรดาผู้ปกครองและญาติ ๆ จะพาส่างลอง ไปโกนผมที่วัด จากนั้น ส่างลองจะต้องนุ่งขาวห่มขาวและรับศีลห้า จากพระสงฆ์ จากนั้นบางแห่งจะมีการเดินขบวนกันไปขอขมาและเดินทางไปยังศาลเจ้าประจำหมู่บ้านเป็นการบอกกล่าวว่าจะมีการจัดปอยส่างลองขึ้น ขั้นตอนต่อมาจะเป็นการ “รับส่าง” หรือ “ฮับส่าง” ในวันนี้ บรรดาญาติ ๆ ของส่างลองที่เป็นผู้หญิงจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงส่างลอง โดยจะช่วยกันแต่งองค์ทรงเครื่อง แต่งหน้าทาปากให้สวยที่สุด การแต่งกายของส่างลองจะประกอบด้วย 3 ส่วนด้วยกันคือ ส่วนที่เป็นเครื่องประดับศีรษะ เสื้อและกางเกง ส่วนที่ประดับศีรษะจะวางมวยผมของผู้เป็นบุพการีไว้บนศีรษะและโพกด้วยผ้าที่มีสีสันแล้วคลี่เป็นรูปพัดให้สวยงาม สมัยก่อนประดับประดาไปด้วยดอกไม้สดนานาชนิดแต่ปัจจุบันนิยมใช้ดอกไม้ประดิษฐ์เพราะความคงทนและสามารถนำไปใช้บวชได้อีกหลายงาน ส่วนเสื้อจะเป็นเสื้อคอกลมแขนยาวปักดิ้นเงินดิ้นทองระยิบระยับเมื่อต้องกับแสงแดดและสวมทับด้วยเครื่องประดับที่เรียกว่า “แคบคอ” และสร้อยมุก กางเกงเป็นแบบโจงกระเบน ปัจจุบัน นิยมตัดเย็บเป็นกางเกงสำเร็จรูป ใส่ถุงเท้าสีขาวคลุมน่องเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น